สำหรับผู้ประกอบที่กำลังดำเนินธุรกิจจะเข้าใจดีว่า สินค้า ผลิตภัณฑ์ และบริการจะดีแค่ไหน หากแต่ขาดการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ย่อมไม่อาจดึงดูดลูกค้าได้ ยิ่งในยุคที่การแข่งขันทางการค้าสูงมากขึ้น การโปรโมทตัวเองก็ยิ่งเป็นสิ่งสำคัญ และผู้ประกอบการส่วนใหญ่ก็ให้ความสำคัญกับส่วนนี้ แต่ในปัจจุบันได้มีการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มกับธุรกิจที่ให้บริการออนไลน์ ซึ่งแน่นอนว่าจะกระทบกับการโฆษณาผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนั้น ผู้ประกอบการจะต้องมีการเรียนรู้และปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ วันนี้เราจึงขอนำเสนอการจัดการ “ภาษีโฆษณาออนไลน์” ในช่องทางต่าง ๆ แบบง่าย ๆ เพื่อนำไปปรับใช้กับกิจการ
ก่อนจะทำความรู้จักกับภาษีที่เกี่ยวข้องกับโฆษณาออนไลน์ เรามาดูสาเหตุที่มีการเรียกเก็บภาษีโฆษณาออนไลน์กันก่อน
การเก็บภาษีโฆษณาออนไลน์ เกิดจากการประกาศใช้กฎหมาย e-Service ซึ่งถูกบัญญัติขึ้นเพื่อเป็นกฎหมายการเก็บภาษีในรูปแบบของภาษีมูลค่าเพิ่มกับธุรกิจที่ให้บริการอิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ เช่น เพลง ภาพยนตร์ สื่อโฆษณา และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยมีการระบุเพิ่มเติมว่ากิจการที่ต้องเสียภาษีในส่วนนี้จำเป็นที่จะต้องมีรายได้จากการให้บริการในประเทศไทยเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี เท่านั้น
ดังนั้น เมื่อมีการประกาศใช้กฎหมาย e-Service ทำให้ผู้ให้บริการอิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ประกอบการ ซึ่งจะกระทบกับการซื้อโฆษณาของผู้ประกอบการที่ใช้ช่องทางการโปรโมททางออนไลน์
สำหรับผลกระทบต่อผู้ประกอบการออนไลน์ที่เห็นได้ชัด สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม ดังนี้