อย่าลืม! ยื่นชำระภาษีเงินได้ปี 66 ก่อนหมดเขต สามารถยื่นแบบออนไลน์ได้ถึงวันที่ 9 เม.ย.2567 นี้เท่านั้น
แจ้งเตือนเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย สำหรับการยืนแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปี 2566 ซึ่งผู้มีเงินได้สามารถยื่นแบบฯ ได้ 2 ช่องทาง คือ
- ยื่นแบบกระดาษ ภายในวันที่ 31 มี.ค. 2567 (หมดเขตยื่นแล้ว ณ วันนี้!!)
- ยื่นแบบออนไลน์ ผ่านระบบ e-filing ได้ถึงวันที่ 9 เม.ย. 2567
ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจและ Checklist ตัวเองก่อนส่งยื่นภาษีในโค้งสุดท้ายนี้กัน “แต่หากมีการยื่นภาษีล่าช้าเกินกำหนดเสียค่าปรับไม่เกิน 2,000 บาท” ตามมาตรา 35 แห่งประมวลรัษฎากร แต่สามารถขอลดค่าปรับได้ และต้องไปยื่นแบบ ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา และชำระภาษี พร้อมเงินเพิ่มร้อยละ 1.5 ต่อเดือน
Checklist ความพร้อมก่อนการยื่นภาษี
เอกสารที่ต้องเตรียมยื่นภาษีออนไลน์
- หนังสือรับรองภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (ใบ 50 ทวิ) เป็นเอกสารที่แสดงถึงรายได้รวมทั้งปี หลังจากหักชำระกองทุน หรือเงินทุนสำรองต่างๆ
- รายการลดหย่อนภาษีที่รวบรวมไว้ททั้งปี เช่น ค่าเลี้ยงดูบิดา-มารดา ค่าเลี้ยงดูบุตร เป็นต้น
- เอกสารประกอบการลดหย่อนภาษีเพื่อกรอกแบบฟอร์มยื่นภาษี เช่น จำนวนเงินที่ซื้อกองทุน เบี้้ยประกันชีวิต ประกันสุขภาพ หรือค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าและบริการ เป็นต้น
getInvoice ทำให้ e-tax Invoice เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ!!!
วิธียื่นภาษีออนไลน์ 2566 ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร มีขั้นตอนดังนี้
- เข้าเว็บไซต์กรมสรรพากร คลิกhttps://efiling.rd.go.th/rd-cms/ จากนั้นเลือก “ยื่นออนไลน์”
- เมื่อเข้าสู่ระบบ ให้กด “ยื่นแบบออนไลน์” ส่วนใครที่เพิ่งยื่นภาษีเป็นครั้งแรกต้องสมัครสมาชิกก่อนยื่นแบบออนไลน์
- หน้าจอเข้าสู่ระบบ “กรอกเลขประตัวผู้เสียภาษีอากร” หรือชื่อผู้ใช้งาน (เลขประจำตัวประชาชน) และรหัสผ่านที่ตั้งไว้ จากนั้น “กดเข้าสู่ระบบ“
- จากนั้น ระบบจะให้ยืนยันตัวตนด้วยระบบ “OTP เพื่อยืนยันตัวตน” ผ่านหมายเลขโทรศัพท์ หากมีการเปลี่ยนเบอร์ให้ระบุเบอร์โทรศัพท์ใหม่ จากนั้นกดขอรหัส OTP เลือกเบอร์โทรศัพท์ที่แจ้งไว้ เพื่อส่งรหัส OTP
- เมื่อได้รับรหัส OTP และกรอกเรียบร้อยแล้วให้กดยืนยัน
- ระบบจะแสดงหน้าจอผู้มีภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กด “ยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90/91” ซึ่งเป็นแบบภาษีเงินได้ประจำปี
ยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90/91
ยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90/91 - ระบบจะแสดงข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ ทั้งเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร, ชื่อ-นามสกุล, วันเดือนปีเกิด, สถานที่ติดต่อ, ร้านค้า/กิจการส่วนตัว (ถ้ามี) และให้ระบุสถานะในปัจจุบันด้วย จากนั้นเลือกกด “ถัดไป“
- ระบบแสดงหน้ารายได้ เช่น รายได้จากเงินเดือน, รายได้จากฟรีแลนซ์-รับจ้างทั่วไป-วิชาชีพอิสระ, รายได้จากทรัพย์สิน การทำธุรกิจ, รายได้จากการลงทุนและรายได้จากมรดกหรือได้รับมา หากเป็นพนักงานประจำหรือมนุษย์เงินเดือน เลือกรายได้จากเงินเดือน กดที่ “ระบุข้อมูล“
ระบบแสดงหน้ารายได้ - ใส่รายละเอียดเงินได้ทั้งหมด ภาษีหัก ณ ที่จ่าย เลขผู้จ่ายเงินได้ จากนั้นกด “บันทึก“
- ระบบจะพากลับมาที่หน้ารายได้เหมือนเดิม ให้ “ตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง“ว่าถูกต้องหรือไม่ (หากมีรายได้ที่นอกเหนือจากเงินเดือน ให้กรอกให้ครบถ้วน) จากนั้นกดถัดไป
- ระบบจะแสดงรายการค่าลดหย่อนภาษีที่เรามีในปี 2566 โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ
- กลุ่มที่ 1 ค่าลดหย่อนส่วนตัวและครอบครัว
- กลุ่มที่ 2 ค่าลดหย่อนกลุ่มออมเงินและลงทุน
- กลุ่มที่ 3 ค่าลดหย่อนกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาล
- กลุ่มที่ 4 ค่าลดหย่อนบริจาค
(กรอกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประกันสังคม หรือใครที่มีการออมการลงทุนต้องกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนเพื่อใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษี)
ยื่นภาษีออนไลน์
- ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด
- เมื่อตรวจสอบข้อมูลครบถ้วนแล้ว กดปุ่ม “ยืนยันการยื่นแบบ” เป็นอันเสร็จสิ้นการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ในขั้นตอนการจัดส่งใบกำกับภาษีจะมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ คือ
- ค่าซองเอกสาร
- ค่าส่งเอกสาร
(อาจจะมีค่าใช้จ่ายแอบแฝงอย่างอื่นได้อีก เช่น ค่าพนักงานส่งเอกสาร, ค่าโทรศัพท์ในการติดตามเอกสาร)
จะเห็นได้ว่าในแต่ละขั้นตอนของการทำใบกำกับภาษีในรูปแบบกระดาษนั้นมีค่าใช้จ่ายใดบ้าง ซึ่งในแต่ละขั้นตอนอาจจะมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่แอบแฝง ขึ้นอยู่กับขั้นตอนและวิธีการแต่ละองค์กร จากปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายทำให้หลายๆ องค์กรให้ความสนใจกับระบบ e-Tax invoice ที่จะเข้ามาช่วยลดค่าใช้จ่ายภายในองค์กร
สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ e-Tax Invoice กับกรมสรรพากรได้ที่ https://etax.rd.go.th/etax_staticpage/app/#/index/registered#top