ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax หรือ VAT) คือ ภาษีประเภทหนึ่งตามประมวลรัษฎากร ซึ่งกรมสรรพากรเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการรับผิดชอบจัดเก็บ โดยจัดเก็บได้จาก
- มูลค่าของการซื้อขายสินค้าหรือการให้บริการในประเทศ
- การนำเข้าสินค้า
- การให้บริการที่ทำต่างประเทศและนำบริการนั้นเข้ามาใช้ในประเทศด้วย
หากกิจการมีคุณสมบัติตรงตามนี้ จะมีการจัดเก็บอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 7%
แต่นอกจาก VAT 7% ที่เรารู้จักกันแล้วยังมี VAT 0 และ Non VAT (ไม่ต้องเสีย VAT) ด้วยบทความนี้จะทำให้คุณเข้าใจในเรื่องนี้
ใครบ้างที่ต้องจดทะเบียน ภาษีมูลค่าเพิ่ม
- ผู้ประกอบกิจการที่มีรายได้จากการขายสินค้าหรือให้บริการ เกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี
- ผู้ประกอบกิจการขายสินค้าหรือบริการ ที่อยู่ในข้อบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น การก่อสร้าง โรงงาน ก่อสร้างอาคารสำนักงาน หรือติดตั้งเครื่องจักร
- ผู้ประกอบการอยู่นอกราชอาณาจักร และได้ขายสินค้าหรือบริการในราชอาณาจักร โดยมีตัวแทนอยู่ในราชอาณาจักร ให้ตัวแทนรับผิดชอบในการจดทะเบียน
VAT 0 คืออะไร มีกรณีไหนบ้างที่ เป็น VAT 0 ?
VAT 0 มีผลเทียบเท่ากับการไม่เก็บภาษี แต่ยังต้องมีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการ ภ.พ.30 แสดงรายการภาษีขายและรายการภาษีซื้อ ซึ่งจะได้คืนในส่วนของภาษีซื้อทั้งหมด โดยส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าหรือบริการที่ส่งออก หรือนำไปใช้ยังต่างประเทศ ไม่ได้มีการใช้สินค้าหรือบริการในประเทศ จึงจะได้รับอัตราภาษีร้อยละ 0 มีผลเท่ากับไม่ต้องเสียภาษีจากการขายสินค้าหรือการให้บริการนั้น
ในกรณีที่จะนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 0 นั้นต้องเกิดจากการ
- มีรายได้ ตามมาตรา 80/1
- ขายสินค้าหรือให้บริการโดยการส่งออก
- การให้บริการขนส่งระหว่างประเทศโดยอากาศยาน หรือเรือเดินทะเลที่กระทำโดยผู้ประกอบ
การที่เป็นนิติบุคคล - การขายสินค้าหรือการให้บริการกับภาครัฐ ทั้งกระทรวง ทบวง กรม ราชการส่วนท้องถิ่นหรือรัฐวิสาหกิจโครงการเงินกู้หรือเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ
- การขายสินค้าหรือการให้บริการกับองค์การสหประชาชาติทบวงการชำนาญพิเศษของสหประชาชาติ
สถานเอกอัครราชทูต สถานทูต สถานกงสุลใหญ่สถานกงสุล - การขายสินค้าหรือการให้บริการระหว่างคลังสินค้าทัณฑ์บนกับคลังสินค้าทัณฑ์บนหรือระหว่าง
ผู้ประกอบการกับผู้ประกอบการที่ประกอบกิจการที่อยู่ในเขตปลอดอากรไม่ว่าจะอยู่ในเขตเดียวกันหรือไม่ หรือระหว่างคลังสินค้าทัณฑ์บนกับผู้ประกอบการที่ประกอบกิจการอยู่ในเขตปลอดอากร
ตัวอย่างของการเสีย VAT 0 คือ หากบริษัทมีการส่งสินค้าไปขายยังต่างประเทศ 200,000 บาท ต้องมีหน้าที่ที่จะต้องยื่นแบบแสดงรายการ ภ.พ.30 แสดงรายการภาษีขาย และรายการภาษีซื้อทั้งหมด โดยมีการคิดในอัตรา 0 % ซึ่งจะเท่ากับไม่ต้องจ่ายภาษีในการส่งออก 200,000 บาท แต่ต้องมีการออกใบกำกับภาษี และต้องการนำมารวมคำนวณในแบบ ภ.พ.30 ข้อ 2
การยกเว้น ภาษีมูลค่าเพิ่ม
การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม คือ การไม่นำรายได้มาคำนวณภาษีซึ่งจะต้องมีการนำมารวมคำนวนใน แบบ ภ.พ.30 ข้อ 3 ซึ่งจะได้รับการยกเว้นในกิจการบางประเภท ที่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
โดยมีกิจการที่ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ยกตัวอย่าง ดังนี้
- ผู้ประกอบกิจการขายสินค้าพืชผลทางการเกษตร สัตว์ไม่ว่ามีชีวิตหรือไม่มีชีวิต ปุ๋ย ปลาป่นอาหารสัตว์ ยาหรือเคมีภัณฑ์ที่ใช้สำหรับพืชหรือสัตว์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือตำราเรียน
- ผู้ประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการ ซึ่งไม่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามกฎหมายและมีรายรับไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี
- การให้บริการขนส่งในราชอาณาจักรโดยท่าอากาศยาน
- การส่งออกของผู้ประกอบการในเขตอุตสาหกรรมส่งออกตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
- การให้บริการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทางท่อในราชอาณาจักร
ใครบ้างที่ไม่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
- ผู้ประกอบการที่มีรายรับจากการขายสินค้าหรือให้บริการไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี
- ผู้ประกอบการที่ขายสินค้าหรือให้บริการที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามกฎหมาย
- ผู้ประกอบการที่อยู่นอกราชอาณาจักรและเข้ามาประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการในราชอาณาจักรเป็นครั้งคราว (ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร)
- ผู้ประกอบการที่ได้รับการประกาศจากกรมสรรพากร
ตัวอย่างการได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม คือ ผู้ประกอบการที่ประกอบกิจการขายสินค้าทางเกษตร มีรายได้ 1,000,000 บาท ผู้ประกอบการไม่ต้องมีการยื่นแบบแสดงรายการ
ข้อแตกต่างของ VAT 0 vs ยกเว้น VAT มีดังนี้
จากข้อมูลข้างต้นทำให้สรุปความแตกต่างของ ภาษีมูลค่าเพิ่มอัตราร้อยละ 0 และการได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนี้
ภาษีมูลค่าเพิ่ม ถือเป็นภาษีที่ผู้ประกอบการต้องจ่าย โดยมีกรมสรรพากรเป็นผู้จัดเก็บ ซึ่งจะเก็บจากมูลค่าของการซื้อขายสินค้าหรือการให้บริการในประเทศ การนำเข้าสินค้า และการให้บริการที่ทำต่างประเทศและนำบริการนั้นเข้ามาใช้ในประเทศ โดยจะจัดเก็บในอัตราร้อยละ 7 หากแต่ในบางกิจการจะมีการจัดเก็บในอัตราที่น้อยกว่า คือ การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 ซึ่งได้รับสิทธิตามประมวลรัษฎากร ซึ่งมีกิจการที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกทั้งหมด หรือ การขายสินค้าให้กับภาครัฐ โดยจะต้องมีการยื่นแบบแสดงภ.พ.30 และต้องมีการออกใบกำกับภาษี โดยจะขอคืนในส่วนของภาษีซื้อ ซึ่งมีความแตกต่างกับการยกเว้นการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่ผู้ที่ได้รับการยกเว้น คือ กิจการที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและสัตว์ทางการเกษตร รวมถึงกิจการที่มีรายได้ไม่ถึง 1.8 ล้านบาท โดยกิจการที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องยื่นแบบแสดงรายการ แต่จะไม่สามารถใช้ภาษีซื้อเพื่อขอคืนได้