You are currently viewing ถาม – ตอบ (Q&A) มาตรการ “Easy E-Receipt”

ถาม – ตอบ (Q&A) มาตรการ “Easy E-Receipt”

  • Post author:
  • Post category:e-tax invoice
right-arrow

คำถาม : มาตรการ “Easy E-Receipt” เป็นการให้สิทธิประโยชน์อะไร

คำตอบ : ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่ นิติบุคคล หักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการเท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการสำหรับ การซื้อสินค้าหรือการรับบริการในราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท โดยจะต้องมีใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปในรูปแบบ อิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) จากระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ของกรมสรรพากร เว้นแต่ ค่าหนังสือ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร และค่าบริการ หนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต รวมถึงค่า สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว จะจ่ายให้แก่ผู้ มิใช่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มก็ได้ โดยจะต้องมีใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) จาก ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากร

right-arrow

คำถาม : ผู้ใช้สิทธิประโยชน์ตามมาตรการ “Easy E-Receipt” คือใคร

คำตอบ : บุคคลธรรมดาเท่านั้นไม่รวมห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล

getInvoice ทำให้ e-tax Invoice เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ!!!

right-arrow

คำถาม : การให้หักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ มีหลักเกณฑ์ เงื่อนไข อย่างไร

คำตอบ :

  1. กําหนดให้ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือ คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล หักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการเท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าหรือ ค่าบริการสำหรับการซื้อสินค้าหรือการรับบริการในราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท โดยจะต้องมีใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) จากระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ของกรมสรรพากร

ทั้งนี้ e-Tax Invoice รวม e-Tax Invoice by Time Stamp ด้วย และต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกําหนด

  1. หลักเกณฑ์

2.1) ค่าสินค้าหรือค่าบริการไม่รวมถึง
2.1.1) ค่าซื้อสุรา เบียร์ และไวน์
2.1.2) ค่าซื้อยาสูบ
2.1.3) ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
2.1.4) ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ
2.1.5) ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต
2.1.6) ค่าบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการและผู้รับบริการสามารถใช้บริการดังกล่าว

นอกเหนือจากระยะเวลาตามที่กําหนดในข้อ 1) เช่น ค่าสมาชิกต่าง ๆ 2.1.7) ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย

2.2) ผู้มีเงินได้ต้องจ่ายค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและ ได้รับใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากรในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) โดยต้องระบุเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร (เลขประจำตัวประชาชน) ของผู้ซื้อสินค้าหรือ ผู้รับบริการด้วยเว้นแต่ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการดังต่อไปนี้จะจ่ายให้แก่ผู้มิใช่ผู้ประกอบการจดทะเบยีน ภาษีมูลค่าเพิ่มก็ได้

2.2.1) ค่าซื้อหนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสาร

2.2.2) ค่าบริการหนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่าน ระบบอินเทอร์เน็ต

2.2.3) ค่าซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนา ชุมชนแล้ว

กรณีซื้อสินค้าหรือรับบริการตาม 2.2.1) – 2.2.3) จากผู้มิใช่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องได้รับใบรับตามมาตรา 105 ทวิแห่งประมวลรัษฎากรในรูปแบบใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) จากระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากร โดยต้องระบุชื่อ นามสกุล และเลขประจำตัว ผู้เสียภาษีอากร (เลขประจำตัวประชาชน) ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการด้วย

3. หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขอื่น ๆ เป็นไปตามที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกําหนด เช่น วิธีการใช้ สิทธิโดยทั่วไป วิธีการใช้สิทธิของสามีและภริยา ข้อห้ามการใช้สิทธิของผู้มีเงินได้ที่เป็นผู้ประกอบการ จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หลักฐานประกอบการใช้สิทธิ เป็นต้น

right-arrow

คำถาม : ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการใดบ้างที่สามารถนํามาหักลดหย่อนตามมาตรการนี้ได้

คำตอบ : 

  1. ค่าซื้อสินค้าทุกประเภทที่ซื้อจากผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มสามารถนํามาหักลดหย่อน ตามมาตรการนี้ได้ ยกเว้นค่าซื้อ สินค้าหรือค่าบริการ ดังต่อไปนี้

1.1) ค่าซื้อสุรา เบียร์ และไวน์
1.2) ค่าซื้อยาสูบ
1.3) ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
1.4) ค่าน้ำมัน และก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ
1.5) ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณ

อินเทอร์เน็ต
1.6) ค่าบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการและผู้รับบริการสามารถใช้บริการดังกล่าวนอกเหนือจาก

ระยะเวลาตามที่กําหนด (วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567) เช่น ค่าสมาชิกต่าง ๆ

1.7) ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย

  1. ผู้มีเงินได้ต้องจ่ายค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและได้รับ ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร เว้นแต่ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการดังต่อไปนี้ จะจ่ายให้แก่ผู้มิใช่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มก็ได้

2.1) ค่าซื้อหนังสือ
2.2) ค่าบริการหนังสือที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
2.3) ค่าซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว

right-arrow

คำถาม : ค่าซื้ออาหารในโรงแรม สามารถนํามาหักลดหย่อนเป็นค่าซื้อสินค้าหรือบริการในประเทศได้หรือไม่

คำตอบ : ได้ หากโรมแรมสามารถออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ของ ค่าซื้ออาหารได้

right-arrow

คำถาม : ค่าซ่อมรถ สามารถนํามาหักลดหย่อนเป็นค่าซื้อสินค้าหรือบริการในประเทศได้หรือไม่

คำตอบ : ได้ หากเป็นการซ่อมและจ่ายค่าซ่อมระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 และผู้ประกอบการสามารถออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ได้

right-arrow

คำถาม : การซื้อทองรูปพรรณ สามารถนํามาหักลดหย่อนเป็นค่าซื้อสินค้าหรือบริการในประเทศได้หรือไม่

คำตอบ : สามารถนํามาหักลดหย่อนเป็นค่าซื้อสินค้าได้ เฉพาะค่ากำเหน็จ (ตามมูลค่าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม) หากผู้ประกอบการสามารถออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ได้

right-arrow

คำถาม : ค่าซื้อแพคเกจทัวร์ท่องเที่ยวในประเทศ สามารถนํามาหักลดหย่อนเป็นค่าซื้อสินค้าหรือบริการ ในประเทศได้หรือไม่

คำตอบ : ได้ หากเป็นการใช้แพคเกจทัวร์ท่องเที่ยวระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 และผู้ประกอบการสามารถออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ได้

right-arrow

คำถาม : กรณีจ่ายค่าที่พักโรงแรม หรือจ่ายค่าบริการนําเที่ยว ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันทที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 สามารถใช้สิทธิหักลดหย่อนตามมาตรการนี้ได้หรือไม่

คำตอบ : ได้ หากเป็นค่าที่พักโรงแรมหรือค่าบริการนําเที่ยวระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 และผู้ประกอบการสามารถออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ได้

right-arrow

คำถาม : ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์ สามารถนํามาหักลดหย่อนเป็นค่าซื้อสินค้าหรือ บริการในประเทศได้หรือไม่

คำตอบ : ไม่ได้

right-arrow

คำถาม : กรณีมีสัญญาใช้บริการระยะยาว ที่มีระยะเวลาสัญญาเริ่มต้นก่อนวันที่ 1 มกราคม 2567 หรือมี ระยะเวลาสิ้นสุดหลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 โดยมีส่วนที่ชําระและใช้บริการภายในวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 สามารถนําค่าบริการเฉพาะส่วนที่ใช้บริการ ในช่วงเวลาดังกล่าวมาใช้สิทธิหักลดหย่อนตามมาตรการนี้ได้หรือไม่

คำตอบ : ไม่ได้ เนื่องจากเป็นค่าบริการสำหรับบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการระยะยาว ซึ่งเริ่มต้นก่อนวันที่ 1 มกราคม 2567 หรือสิ้นสุดหลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567

right-arrow

คำถาม : กรณีชําระค่าบริการระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 แต่ได้ใช้บริการหลัง วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 จะสามารถใช้สิทธิหักลดหย่อนตามมาตรการนี้ได้หรือไม่

คำตอบ : ไม่ได้ เนื่องจากต้องชําระค่าบริการและใช้บริการในช่วงวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 เท่านั้น

right-arrow

คำถาม : ค่าซื้อประกันชีวิต ประกันวินาศภัย ประกันสุขภาพ ประกันรถยนต์ สามารถนํามาหักลดหย่อนเป็น ค่าซื้อสินค้าหรือบริการในประเทศได้หรือไม่

คำตอบ : ไม่ได้

1.1) ค่าซื้อประกันชีวิต ไม่สามารถนํามาใช้สิทธิตามมาตรการนี้ได้ เนื่องจากเป็นบริการที่ไม่อยู่บังคับ ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ขอให้พิจารณาใช้สิทธิหักลดหย่อนค่าซื้อเบี้ยประกันชีวิต ตามประมวลรัษฎากร (มาตรา 47 (1) (ง)) และกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 พ.ศ. 2509 ข้อ 2 (61) ไม่เกิน 100,000 บาท
1.2) ค่าซื้อประกันวินาศภัย ประกันสุขภาพ และประกันรถยนต์ ไม่สามารถนํามาใช้สิทธิตามมาตรการนี้ได้

right-arrow

คำถาม : การซื้อทองคําแท่ง สามารถนํามาหักลดหย่อนเป็นค่าซื้อสินค้าหรือบริการในประเทศได้หรือไม่

คำตอบ : ไม่ได้ เนื่องจากทองคําแท่งเป็นสินค้าที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้ประกอบการไม่มีหน้าที่ออกใบกำกับ ภาษี อันเป็นหลักฐานการใช้สิทธิตามมาตรการนี้

right-arrow

คำถาม : ค่ารักษาพยาบาล ค่าทำศัลยกรรม สามารถนํามาหักลดหย่อนเป็นค่าซื้อสินค้าหรือบริการในประเทศ ได้หรือไม่

คำตอบ : ไม่ได้ เนื่องจากการให้บริการของสถานพยาบาลได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้ประกอบการไม่มีหน้าที่ออก ใบกำกับภาษี อันเป็นหลักฐานการใช้สิทธิตามมาตรการ

right-arrow

คำถาม : ค่าซื้อบัตรเพื่อแลกรับบริการ สามารถนํามาหักลดหย่อนเป็นค่าซื้อสินค้าหรือบริการในประเทศ ได้หรือไม่

คำตอบ : ไม่ได้ เนื่องจากการขายบัตรเพื่อแลกรับบริการไม่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้ขายบัตรเพื่อแลกรับ บริการไม่มีหน้าที่ออกใบกำกับภาษี อันเป็นหลักฐานการใช้สิทธิตามมาตรการนี้ แต่หากนําบัตรเพื่อแลกรับ บริการไปแลกรับบริการ ในช่วงวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งสามารถคำนวณ เป็นจำนวนเงินและออกใบกำกับภาษีได้ สามารถนําใบกำกับภาษีมาใช้เป็นหลักฐานในการรับสิทธิตาม มาตรการนี้ได้

right-arrow

คำถาม : ค่าซื้อบัตรของขวัญของห้างสรรพสินค้า (Gift voucher) ค่าซื้อบัตรของขวัญ (Voucher) สำหรับ ค่าซื้ออาหารของโรงแรม บัตรเติมเงินค่าโทรศัพท์ สามารถนํามาหักลดหย่อนเป็นค่าซื้อสินค้าหรือ บริการในประเทศได้หรือไม่

คำตอบ : ไม่ได้ เนื่องจากการขายบัตรของขวัญ/บัตรเติมเงิน ไม่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้ขายบัตร ของขวัญ/เติมเงิน ไม่มีหน้าที่ออกใบกำกับภาษี อันเป็นหลักฐานการใช้สิทธิตามมาตรการนี้ แต่หากนําบัตร ของขวัญ/บัตรเติมเงิน ไปแลกซื้อสินค้าหรือบริการ ในช่วงวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งสามารถคำนวณเป็นจำนวนเงิน และออกใบกำกับภาษีได้ สามารถนําใบกำกับภาษี มาใช้เป็นหลักฐานในการรับสิทธิตามมาตรการนี้ได้

right-arrow

คำถาม : ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt คืออะไร และแตกต่างจากใบกำกับภาษีและใบรับในรูปแบบ กระดาษอย่างไร

คำตอบ : e-Tax Invoice & e-Receipt คือ ใบกำกับภาษี (e-Tax Invoice) และใบรับ (e-Receipt) ที่ได้มีการจัดทำ ข้อความขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และได้ลงลายมือชื่อโดยใช้ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Certificate) ซึ่งประชาชนไม่ต้องเก็บรักษาใบกำกับภาษีและจัดส่งให้กรมสรรพากรในการเข้าร่วมมาตรการ โดยสามารถใช้ข้อมูล e-Tax Invoice ในฐานข้อมูลของกรมสรรพากรในการยื่นแบบแสดงรายการภาษี และ เจ้าหน้าที่จะไม่ขอให้ส่งใบกำกับภาษีอีก หากมีข้อมูลในฐานข้อมูลของกรมสรรพากรแล้ว

e-Tax Invoice & e-Receipt คือ ใบกำกับภาษี (e-Tax Invoice) และใบรับ (e-Receipt) ที่ได้มีการจัดทำ ข้อความขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และได้ลงลายมือชื่อโดยใช้ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Certificate) ซึ่งประชาชนไม่ต้องเก็บรักษาใบกำกับภาษีและจัดส่งให้กรมสรรพากรในการเข้าร่วมมาตรการ โดยสามารถใช้ข้อมูล e-Tax Invoice ในฐานข้อมูลของกรมสรรพากรในการยื่นแบบแสดงรายการภาษี และ เจ้าหน้าที่จะไม่ขอให้ส่งใบกำกับภาษีอีก หากมีข้อมูลในฐานข้อมูลของกรมสรรพากรแล้ว

ใช้งาน getInvoice  (e-tax Invoice) หักรายจ่ายค่าบริการระบบดังกล่าวได้ 2 เท่า!!

right-arrow

คำถาม : ต้องใช้หลักฐานใดในการใช้สิทธิหักลดหย่อน

คำตอบ : หลักฐานที่ใช้คือใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา86/4แห่งประมวลรัษฎากรในรูปแบบ อิเล็กทรอนิกส์จากระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ของกรมสรรพากร (ใบกำกับภาษีที่มีข้อความระบุชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษี อากร (เลขประจำตัวประชาชน) ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ) เว้นแต่สินค้าหรือบริการดังต่อไปนี้ ที่ซื้อมาจากผู้ประกอบการที่ไม่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องมีหลักฐานใบรับในรูปแบบ ใบรับอิเล็กทรอนิกส์จากระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากร ซึ่งมีรายการอย่างน้อยตาม มาตรา 105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร พร้อมระบุชื่อ นามสกุล และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร (เลข ประจำตัวประชาชน)ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการด้วย

1) หนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสาร
2) บริการหนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (e-Book)
3) สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว

right-arrow

คำถาม : ใบกำกับภาษีหรือใบรับที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ที่นํามาใช้ใน การหักลดหย่อนได้ หมายถึงอะไร

คำตอบ : ใบกำกับภาษีเต็มรูปหรือใบรับที่จัดทำโดยมีสาระสำคัญตามประมวลรัษฎากรขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยใช้ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ หรือ มีการประทับรับรองเวลาจาก สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

ทั้งนี้ ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) ต้องมี เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร (เลขประจำตัวประชาชน) ของผู้มีเงินได้ที่ซื้อสินค้าหรือรับบริการตามที่ อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกําหนดด้วย

right-arrow

คำถาม : ใบกำกับภาษีมีข้อความไม่สมบูรณ์ เช่น เขียนชื่อ หรือที่อยู่ผู้ซื้อสินค้าผิด หรือมีการแก้ไข สามารถ นํามาใช้หักลดหย่อนได้หรือไม่

คำตอบ : หากใบกำกับภาษีนั้นมีรายการครบถ้วน แม้จะมีการระบุชื่อหรือที่อยู่ผู้ซื้อสินค้าผิด หรือมีการแก้ไข ข้อความ ก็สามารถใช้หักลดหย่อนได้

right-arrow

คำถาม : ซื้อมีที่อยู่ตามบัตรประชาชนกับที่อยู่ในแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแตกต่างกัน ให้ใช้ที่อยู่ใด

คำตอบ : จะใช้ที่อยู่ตามบัตรประชาชนหรือที่อยู่ปัจจุบันก็ได้

right-arrow

คำถาม : ผู้กรณีซื้อสินค้าหรือชําระค่าบริการหลายครั้ง (มีใบกำกับภาษีหลายใบ) ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 จะสามารถนํามูลค่าการซื้อสินค้าหรือชําระค่าบริการแต่ละครั้งมา รวมกันเพื่อใช้สิทธิได้หรือไม่

คำตอบ : ได้ แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 50,000 บาท

right-arrow

คำถาม : กรณีซื้อสินค้าหรือชําระค่าบริการครั้งเดียว (มีใบกำกับภาษี 1 ใบ) ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึง วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 โดยมูลค่าการซื้อสินค้าหรือการชําระค่าบริการนั้นสูงกว่า 50,000 บาท สามารถนํามาใช้เป็นหลักฐานในการรับสิทธิได้หรือไม่

คำตอบ : สามารถใช้สิทธิตามมาตรการนี้ได้ แต่จะได้รับสิทธิ 50,000 บาท

right-arrow

คำถาม : ใบกำกับภาษีมีชื่อผู้ซื้อสินค้าหลายคน สามารถนํารายจ่ายดังกล่าวไปหักลดหย่อนเป็นค่าซื้อสินค้าหรือ บริการในประเทศได้หรือไม่

คำตอบ : ไม่ได้ ใบกำกับภาษีต้องมีชื่อผู้ซื้อสินค้าหรือชําระค่าบริการเพียงคนเดียว

right-arrow

คำถาม : กรณีใบกำกับภาษีมีทั้งรายการสินค้าและบริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มและไม่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม จะหัก ลดหย่อนอย่างไรกรณีใบกำกับภาษีมีทั้งรายการสินค้าและบริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มและไม่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม จะหัก ลดหย่อนอย่างไร

คำตอบ : สามารถนํามาหักลดหย่อนได้เฉพาะค่าซื้อสินค้าและค่าบริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เว้นแต่ค่าซื้อสินค้าหรือ ค่าบริการดังต่อไปนี้สามารถนํามาหักลดหย่อนตามมาตรการนี้ได้ แม้จะจ่ายให้แก่ผู้มิใช่เป็นผู้ประกอบการ จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

1) ค่าซื้อหนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสาร
2) ค่าบริการหนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (e-Book)
3) ค่าซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว

right-arrow

คำถาม : ประชาชนสามารถขอ e-Tax Invoice จากผู้ประกอบการได้อย่างไร

คำตอบ :หากเป็นผู้ประกอบการที่ได้รับอนุมัติ สามารถแจ้งความประสงค์ต่อผู้ประกอบการจดทะเบียนให้ ออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์จากระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับ อิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ของกรมสรรพากร

right-arrow

คำถาม : สามารถตรวจสอบรายชื่อร้านค้าที่เข้าร่วม e-Tax Invoice ได้ที่ใด

คำตอบ : สามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร หรือที่ https://etax.rd.go.th โดยกดไปที่เมนู “ผู้ได้รับอนุมัติ” ซึ่งจะแสดงรายชื่อผู้ประกอบการที่ได้รับอนุมัติให้จัดทำ ส่งมอบ และเก็บรักษาใบกำกับ ภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์
ในกรณีร้านค้าที่เข้าร่วม e-Tax Invoice by Time Stamp สามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่เว็บไซต์ กรมสรรพากรหรือที่ https://www.rd.go.th/27659.html โดยกดไปที่เมนู “รายชื่อผู้ได้รับอนุมัติ”

right-arrow

คำถาม : ผู้ประกอบการสามารถสมัคร e-Tax Invoice ได้อย่างไร

คำตอบ : ผู้ประกอบการสามารถสมัคร e-tax Invoice ได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร หรือที่ https://etax.rd.go.th โดยกดไปที่เมนู “ลงทะเบียน สำหรับผู้ใช้บริการครั้งแรก” หลังจากนั้นผู้ประกอบการสามารถยื่นคําขอ บ.อ.01 และยืนยันตัวตนด้วยลายมือชื่อดิจิทัลผ่านโปรแกรมลงทะเบียนและลงลายมือชื่อดิจิทัล (Ultimate Sign & Viewer) โดยไม่ต้องนําส่งเอกสารให้กรมสรรพากรพิจารณา ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ สามารถศึกษาวิธีการจัดทำและนําส่งใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ได้ที่เว็บไซต์ https://etax.rd.go.th และกดไปที่ เมนูสนับสนุน > คำแนะนํา/คู่มือการใช้งาน

ผู้ประกอบการที่ต้องการสมัคร e-Tax Invoice by Time Stamp ควรเป็นผู้ประกอบการที่มีรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาทต่อปี โดยสามารถสมัครได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร https://www.rd.go.th/27659.html โดยกดไปที่เมนู “ยื่นคําขออนุมัติ” เพื่อกรอกเลขประจำตัวผู้เสียภาษีและพิมพ์เอกสาร ก.อ. 01

right-arrow

คำถาม : ผู้ประกอบการได้ประโยชน์อย่างไรจากการออกใบกำกับภาษีในรูปแบบ e-Tax Invoice

คำตอบ : ร้านค้ามีต้นทุนการปฏิบัติหน้าที่ทางภาษีลดลง เพราะ e-Tax Invoice มีต้นทุนต่ำกว่ากระดาษและ กรมสรรพากรยังให้หักรายจ่ายการลงทุนและค่าใช้บริการระบบ e-Tax Invoice ได้ 2 เท่าอีกด้วย ตามพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 766) พ.ศ. 2566

right-arrow

คำถาม : ประชาชนได้ประโยชน์อย่างไรจากการรับใบกำกับภาษีในรูปแบบ e-Tax Invoice

คำตอบ : ประชาชนที่ได้รับใบกำกับภาษีในรูปแบบ e-Tax Invoice จะไม่ต้องขอใบกำกับภาษีในรูปแบบกระดาษ จากผู้ประกอบการอีก เนื่องจากกรมสรรพากรสามารถตรวจสอบข้อมูลใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้จาก ระบบ e-Tax Invoice ทำให้ประชาชนไม่ต้องเก็บเอกสารในรูปแบบกระดาษในการยื่นแบบภาษี นอกจากนี้ การได้รับใบกำกับภาษีในรูปแบบ e-Tax Invoice จะให้การตรวจคืนภาษีเร็วขึ้น เนื่องจาก มีข้อมูลใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์อยู่ในระบบแล้ว เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรจึงสามารถตรวจสอบได้อย่าง รวดเร็วและแม่นยํา

right-arrow

คำถาม : ปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่สามารถออก e-Tax Invoice & e-Receipt ได้จำนวนกี่ราย และประชาชน สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประการที่สามารถออก e-Tax Invoice & e-Receipt ได้จากที่ใด

คำตอบ :ปัจจุบัน (ณ วันที่ 8 มกราคม 2567) มีผู้ประกอบการที่สามารถออก e-Tax Invoice & e-Receipt ได้จำนวน 3,377 ราย และผู้ประกอบการที่สามารถออก e-Tax Invoice by Time Stamp ได้จำนวน 2,396 ราย โดย ประชาชนสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบการที่สามารถออก e-Tax Invoice & e-Receipt ได้ที่ https://etax.rd.go.th/etax_staticpage/app/#/index/registered#top และสามารถตรวจสอบรายชื่อ ผู้ประการที่สามารถออก e-Tax Invoice by Time Stamp ได้ที่ https://interapp3.rd.go.th/signed_inter/publish/register.php หรือที่ www.rd.go.th หัวข้อ อัปเดท ข่าวสาร ตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบการเข้าระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt

right-arrow

คำถาม : ค่าซื้อหลักทรัพย์ หรือหน่วยลงทุนสามารถนํามาหักลดหย่อนเป็นค่าซื้อสินค้าหรือบริการในประเทศ ได้หรือไม่

คำตอบ : ได้ เฉพาะค่าธรรมเนียมจากการซื้อขายหลักทรัพย์ หรือหน่วยลงทุนที่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่ทางบริษัท หลักทรัพย์สามารถออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ได้

right-arrow

คำถาม : เมื่อได้รับใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ต้องตรวจสอบข้อมูลใดบ้าง

คำตอบ :ตรวจสอบว่ามีรายชื่อเป็นผู้ประกอบการจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือไม่ พร้อมตรวจสอบความ ถูกต้องและสาระสำคัญของใบกำกับภาษีให้ครบถ้วนตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร พร้อมทั้งมี การลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยใช้ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ หากได้รับเป็นไฟล์ผู้รับสามารถตรวจสอบ ได้ที่ Web Validation ของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA)

right-arrow

คำถาม : เมื่อได้รับใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ต้องตรวจสอบข้อมูลใดบ้าง

คำตอบ :e-Tax Invoice by Time Stamp ด้านระบบงาน 0-2272-8901, 0-2272-8735 ด้านการจัดทำและนําส่ง (เชิงเทคนิคหรือพบปัญหาการนําส่ง e-Tax Invoice by Time Stamp) โทรศัพท์ 0-2026-6933 และ e-Tax Invoice & e-Receipt โทรศัพท์ 0-2272-9771

getInvoice ทำให้ e-tax Invoice เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ!!!

ที่มา : กรมสรรพากร