เฉลี่ยภาษีซื้อ
ในการดำเนินธุรกิจย่อมคาดหวังให้กิจการสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในทุกด้าน ทำให้ใน 1 บริษัทอาจดำเนินกิจการประเภทต่างกันรวมอยู่ ในที่นี้จะแบ่งแยกเป็นกิจการประเภทมีภาษีมูลค่าเพิ่ม และกิจการประเภทที่ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น บริษัทขายอาหารสัตว์ การขายอาหารสัตว์ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่บริษัทก็มีการรับทำกรงสัตว์ อุปกรณ์สัตว์เลี้ยงไม่ได้รับการยกเว้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าเมื่อเกิดการรวมกันของกิจการที่เสียและไม่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ย่อมต้องเป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการจะต้องจัดการกับภาษีซื้อที่เกิดขึ้นในธุรกิจทั้งสองประเภทอย่างถูกต้อง โดยใช้วิธีการ เฉลี่ยภาษีซื้อ นั่นเอง
เฉลี่ยภาษีซื้อ คือ การปันส่วนภาษีซื้อของผู้ประกอบกิจการ ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยผู้ประกอบการที่มีรายได้ทั้งประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยไม่สามารถแยกได้อย่างชัดเจนว่า สินค้าหรือบริการที่นำมาใช้นั้นเป็นประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่เสีย จึงต้องนำภาษีซื้อที่เกิดขึ้นมาเฉลี่ยตามส่วนของกิจการที่ผู้ประกอบการนำภาษีมูลค่าเพิ่มไปใช้ หากผู้ประกอบการไม่ทำการเฉลี่ยภาษีซื้อจะถือว่าเป็นภาษีซื้อต้องห้ามทั้งจำนวน
ยกตัวอย่างเช่น
บริษัท แปรรูปหมู จำกัด ผู้ประกอบการมีผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากผลผลิตทางการเกษตร คือ การนำหมูมาแปรรูปเป็น ผลิตภัณฑ์ 2 รูปแบบดังนี้ คือ
ในกระบวนการแปรรูปหมูทำให้เกิดภาษีซื้อ โดยหมูที่นำไปใช้กระบวนการแปรรูปมีทั้งการนำหมูแปรรูปเป็นหมูชิ้นที่ไม่มีการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และนำหมูชิ้นไปแปรรูปเป็นเบคอนที่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนั้นภาษีซื้อที่เกิดจาก กระบวนการแปรรูปนี้ต้องมีการเฉลี่ยภาษีซื้อให้ถูกต้อง
การเฉลี่ยภาษีซื้อมี 2 วิธี คือ
เฉลี่ยภาษีซื้อตามส่วนของรายได้ คือ การเฉลี่ยภาษีซื้อที่เกิดจากสินค้าหรือบริการ ที่ใช้ในการดำเนินกิจการทั้งประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ได้แก่ภาษีซื้อสำหรับค่าซื้อทรัพย์สินส่วนกลาง เช่น เครื่องใช้สำนักงาน เครื่องตกแต่งสำนักงาน เครื่องมือ เครื่องใช้ต่าง ๆ วัสดุสิ้นเปลือง และ ภาษีซื้อสำหรับค่าใช้จ่ายส่วนกลาง เช่น ค่าสาธารณูปโภค ค่าโฆษณา ค่าซ่อมแซม
การเฉลี่ยภาษีซื้อตามส่วนของรายได้ มีวิธีการดังต่อไปนี้
ปีแรกที่เริ่มมีรายได้ (ปีแรกที่มีรายได้เกิดขึ้นจริงไม่น้อยกว่า 6 เดือนภาษี)
ประมาณการรายได้ของกิจการทั้ง 2 ประเภท ในปีที่เริ่มมีรายได้ เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี โดยปีแรกให้ถือเป็นภาษีซื้อได้ไม่เกิน 50%
ปีที่ 2 และปีต่อ ๆ ไป
การเฉลี่ยภาษีซื้อตามพื้นที่การใช้อาคาร คือ การเฉลี่ยภาษีซื้อที่เกิดจากการก่อสร้างอาคาร เพื่อใช้ในกิจการทั้งประเภทมี VAT และ NON-VAT ซึ่งจะนำภาษีที่เกิดขึ้นมาเฉลี่ยตามพื้นที่อาคารที่ใช้ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนดังนี้
1. เมื่อเริ่มสร้างอาคาร
2. เมื่อก่อสร้างอาคารเสร็จสมบูรณ์
หลักจากการดูตัวอย่างทั้งหมดแล้ว หวังว่าผู้ที่สนใจในประเด็นนี้อยู่ จะได้ความรู้จากบทความนี้และนำไปปรับใช้กับกิจการของตนเองได้อย่างเหมาะสม
อย่าลืม! ยื่นชำ…
คำถาม : มาตรการ…
การตรวจสอบ…
ผู้ที่ม…
Easy E-Receipt …
บริษัท …
This website uses cookies.