เริ่มต้นทำบัญชี
การเริ่มต้นในการทำอะไรสักอย่างมักเป็นส่วนที่ยากที่สุด ในการประกอบกิจการก็เช่นกัน ทุกการทำงานสำหรับผู้ประกอบการจะเป็นเรื่องใหม่อยู่เสมอ เรื่องการ “เริ่มต้นทำบัญชี” ของกิจการก็เช่นกัน แม้ว่าบางคนอาจมีการเรียนรู้จากตำราเรียนมาบ้างแล้ว แต่ก็ต้องพบว่าเมื่อนำมาใช้ในชีวิตจริง ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนหลายอย่างเพื่อให้เหมาะสมกับกิจการของตนเอง แล้วถ้าคนไม่มีพื้นฐานมาเลยละ จะเริ่มต้นยังไงดี
สำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ ที่ความรู้ทางบัญชีเป็นศูนย์ ไม่มีพื้นฐานใด ๆ เลย เราขอเริ่มต้นการดำเนินงานไปทีละขั้นตอน เพื่อให้ทุกคนเข้าใจง่ายมากที่สุดนะคะ
เมื่อเริ่มทำธุรกิจ ผู้ประกอบการควรมีการเปิดบัญชีธนาคารสำหรับกิจการโดยเฉพาะ เพื่อให้ง่ายต่อการเช็ครายรับรายจ่ายที่เข้ามาในบัญชี ไม่ควรนำไปรวมกับบัญชีส่วนตัว และคอยตรวจสอบรายการบัญชีอย่างสม่ำเสมอ
ข้อแนะนำสำหรับการเปิดบัญชีธนาคาร คือ เลือกบัญชีธนาคารที่ตอบสนองความต้องการของผู้กิจการ โดยดูข้อกำหนด เงื่อนไขการฝากถอน และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับกิจการ
เลือกวิธีการทำบัญชี โดยมี 2 วิธีดังนี้
คือการบันทึกค่าใช้จ่าย รายรับทั้งหมดของกิจการ เพื่อให้ง่ายต่อการจัดทำบัญชี โดยในขั้นตอนนี้ ผู้ประกอบการสามารถเลือกได้ว่าจะบันทึกบัญชีในรูปแบบใด ดังต่อไปนี้
ผู้ประกอบการควรมีระบบจัดเก็บเอกสาร ทั้งใบเสร็จรับเงิน ใบแจ้งยอดธนาคารและบัตรเครดิต ใบเสร็จค่าเดินทาง วัสดุอุปกรณ์ ค่าสาธารณูปโภค อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์หรือเอกสารซื้อขายอื่น ๆ อย่างเป็นระบบ เพื่อความประหยัดในการจัดหาแฟ้มและสถานที่เก็บเอกสาร และเพื่อสะดวกในการค้นหาและนำกลับมาใช้ รวมถึงป้องกันการสูญหาย ควรจัดเก็บแบบดิจิทัล สามารถสแกน หรือถ่ายรูปจากโทรศัพท์มือถือ แล้วจัดเก็บไว้ที่ https://www.zdox.net เนื่องจากมีพื้นที่ให้ใช้ฟรี และสามารถใช้งานได้ผ่านแอปบนมือถือ และกรณีในอนาคตที่ท่านต้องเซ็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ก็สามารถทำได้อย่างสะดวก
เมื่อเริ่มต้นดำเนินธุรกิจ สิ่งที่ผู้ประกอบการคาดหวังก็คือ รายได้ แต่สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องตัดสินใจ คือ แล้วกิจการจะรับรายได้ในรูปแบบไหน โดยในช่วงที่พึ่งเริ่มต้นกิจการผู้ประกอบการ อาจจะใช้วิธีการชำระเงินแบบพื้นฐาน คือการจ่ายเงินสด และค่อย ๆ เพิ่มตัวเลือกอื่น ๆ เช่น การใช้บัตรเครดิต การชำระผ่านมือถือ การชำระเงินออนไลน์ เพื่อให้มีความเหมาะสมและมีความยืดหยุ่นต่อลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการมากที่สุด
การจัดทำบัญชีของกิจการนอกจากจุดประสงค์เพื่อทำให้ทราบถึงสถานการณ์ทางการเงิน และการดำเนินงานของกิจการแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ การจัดการภาษี โดยภาระภาษีของผู้ประกอบการจะขึ้นอยู่กับสถานะของผู้ประกอบการ โดยดูว่าผู้ประกอบการมีสถานะเป็นบุคคลธรรมดา หรือ นิติบุคคล แล้วเริ่มทำความเข้าใจกับภาษีแต่ละแบบ เพื่อให้สามารถยื่นคำนวณภาษีได้อย่างถูกต้องตามแบบของสรรพากร
ทั้งหมดที่กล่าวมาล้วนเป็นการเตรียมตัวเบื้องต้นสำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ที่ต้องการทำบัญชีของกิจการ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถใช้เป็นแนวทางเพื่อหาวิธีการทำบัญชีที่มีความเหมาะสมและมีความยืดหยุ่นต่อกิจการและลูกค้าของกิจการได้ ดังนั้นลองนำไปปรับใช้กันดูนะคะ
อย่าลืม! ยื่นชำ…
คำถาม : มาตรการ…
การตรวจสอบ…
ผู้ที่ม…
Easy E-Receipt …
บริษัท …
This website uses cookies.